แล้วแบบไหนเหมาะกับใคร
อยู่คนเดียว
ถ้าเราใช้ชีวิตคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงานในเมือง ขนาดห้องที่แนะนำคือ:
สตูดิโอ 25–30 ตร.ม. – กะทัดรัด อยู่สบาย ประหยัดค่าใช้จ่าย เหมาะกับคนที่ออกไปทำงานเกือบทั้งวัน
1 ห้องนอน 30–35 ตร.ม. – มีพื้นที่แยกชัดเจน เหมาะกับคนที่ชอบมีมุมส่วนตัว หรือทำงานจากบ้านบ้าง
ถ้าทำงาน WFH บ่อย แนะนำเลือกแบบมีห้องนอนแยกจะดีกว่า เพราะช่วยให้แยก “โหมดทำงาน” กับ “โหมดพักผ่อน” ได้ชัดเจน

อยู่เป็นคู่
สำหรับคู่รักที่เริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยกัน การมีพื้นที่ส่วนตัวให้แต่ละคนถือว่าสำคัญมาก เพื่อไม่ให้รู้สึกอึดอัดหรือกระทบกันเวลาใช้งาน
1 ห้องนอน 35–40 ตร.ม. – เหมาะสำหรับคู่ที่อยู่ด้วยกันแบบเรียบง่าย
1 Bedroom Plus / 2 ห้องนอน 45–60 ตร.ม. – เพิ่มพื้นที่สำหรับทำงาน หรือเตรียมไว้สำหรับอนาคตมีลูก
ถ้าทั้งคู่ทำงานจากบ้านหรือมีอุปกรณ์เยอะ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องดนตรี ฯลฯ พื้นที่เพิ่มอีกนิดจะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

อยู่กับครอบครัว
ถ้าอยู่กันแบบครอบครัว เช่น พ่อแม่ลูก หรือมีผู้สูงอายุอยู่ด้วย ขนาดห้องยิ่งมีผลต่อความสุขในการใช้ชีวิตเลยล่ะ
2 ห้องนอน 60 ตร.ม. ขึ้นไป – สำหรับครอบครัวเล็ก มีห้องแยกให้ลูกหรือคุณพ่อคุณแม่
3 ห้องนอน 70 ตร.ม. ขึ้นไป – สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ต้องการความเป็นส่วนตัวแต่ละคน
ถ้าจะอยู่แบบครอบครัว อย่าลืมดูเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกของคอนโดด้วย เช่น สนามเด็กเล่น ลิฟต์ขนาดใหญ่ หรือที่จอดรถ

อย่าเลือกแค่ “ขนาด”
นอกจากขนาดห้องคอนโด ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ช่วยให้เราอยู่ได้อย่างสบาย
การจัดวางห้อง – ห้อง 30 ตร.ม. ที่วางแปลนดี อาจดูกว้างกว่าห้อง 35 ตร.ม. ที่วางเฟอร์นิเจอร์รก ๆ
หน้าต่างและแสงธรรมชาติ – ห้องที่รับแสงดี ทำให้ดูโปร่งโล่งและอยู่สบาย
พื้นที่เก็บของ – ตู้บิ้วอิน ช่องเก็บของใต้เตียง หรือชั้นวางของติดผนัง ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก
ทำเลคอนโด – บางครั้งห้องเล็กแต่เดินทางไปที่ต่าง ๆ ได้สบาย ก็สะดวกกว่าห้องใหญ่ที่ต้องขับรถทุกวัน

ถ้ารู้สึกว่าห้องไม่พอดี ต้องทำยังไง
บางคนซื้อคอนโดไปแล้ว พออยู่จริงกลับรู้สึกว่าเล็กไปหรือใหญ่ไป ทำยังไงดี
จัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่ – ลองปรับการวางของ ใช้ของแบบมัลติฟังก์ชัน เช่น เตียงมีลิ้นชัก โต๊ะพับได้
ปล่อยเช่า/ขายต่อ – ถ้ารู้สึกไม่เหมาะจริง ๆ คอนโดทำเลดีมักขายต่อหรือปล่อยเช่าได้ไม่ยาก
หาห้องใหม่ในโครงการเดียวกัน – ถ้าชอบโครงการเดิม แต่อยากเปลี่ยนห้อง ก็ลองสอบถามนิติบุคคลหรือเจ้าของห้องอื่น ๆ ดู

แล้วขนาดห้องแบบไหนขายต่อหรือปล่อยเช่าง่าย
สำหรับคนที่มองเผื่ออนาคต ขนาดห้องที่นิยมมาก ๆ ในตลาดคือ

1 ห้องนอน 30–35 ตร.ม. – ปล่อยเช่าง่าย เพราะมีคนอยู่คนเดียวเยอะ
2 ห้องนอน 50–60 ตร.ม. – เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก มีความต้องการสูงในเมือง
ห้องที่อยู่ในทำเลดี และอยู่ในโครงการที่ดูแลดี ก็จะมีโอกาสขายต่อได้ราคาดีด้วย

เลือกคอนโดต้องดู “ใช้จริง” ไม่ใช่แค่สวยบนแปลน
ท้ายที่สุดแล้ว ขนาดห้องคอนโดที่อยู่ได้จริง ไม่ใช่แค่ดูตัวเลข แต่ต้องลองนึกถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ตื่นเช้ามาใช้งานยังไง มีที่ทำงานที่บ้านไหม ต้องเก็บของเยอะไหม ลองหาเวลาไปเดินดูห้องตัวอย่างในโครงการจริง ดูแปลน วางเฟอร์นิเจอร์คร่าว ๆ แล้วลองจินตนาการดูว่าแบบนี้…เราอยู่ได้ไหม หากเลือกขนาดห้องให้เหมาะกับตัวเองได้ตั้งแต่แรก บอกเลยว่า…อยู่คอนโดก็มีความสุขได้ไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยนะ

‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎ ‎จะดีกว่าไหมถ้าเราไม่ต้องกังวลก่อนหลับว่าจะมาทำงานไม่ทัน แต่มีที่พักใกล้ที่ทำงาน อย่าง ฟินน์คอนโด ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปวนหาที่จอดรถ ไม่ต้องเสียเวลากับการใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนนานๆ แม้งานจะยุ่งแค่ไหนก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีเพื่อกลับถึงที่พักเพื่อพักผ่อน ซึ่งการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเริ่มต้นด้วยการนอนหลับอย่างมีคุณภาพครับ