ออกกำลังกายให้ปลอดภัยในหน้าร้อน
ช่วงหน้าร้อนฤดูร้อนของประเทศไทย ที่มีอุณหภูมิสูง 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป จะอยู่ระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงเดือนมิถุนายนของทุกปี เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เหงือไหลไคลย้อยทั้งๆที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร แอร์และพัดลมจะขายดีมาก รวมถึงขนมหวานเย็น เครื่องดื่มเย็น ก็จะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องการออกกำลังกายนั้นก็ได้รับผลกระทบเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬากลางแจ้ง เทคนิคการออกกำลังกายและข้อควรระวังเมื่อออกกำลังกายภายใต้แดดและอากาศร้อนจัด มีดังนี้
รู้จักเลือกประเภทของกีฬาและเวลาที่เหมาะสม ขณะมีแดดออกจัดจะอยู่ช่วงเวลาประมาณ 10.30-14.30น. ควรเลือกการออกกำลังกายในที่ร่ม เช่น เล่นยิม เล่นฟิตเนส ออกกำลังกายในโรงยิม คอร์แบดมินตัน สระว่ายน้ำในร่ม เป็นต้น เนื่องจากพื้นที่กลางแจ้งที่มีแดดจัดจะมีอุณหภูมิสูงมาก แดดร้อนมาก พื้นผิวของพื้นที่ทั้งที่เป็นพื้นยางหรือพื้นคอนกรีตหรือแม้แต่พื้นหญ้าจะร้อนระอุมาก หากหกล้มหรือสะดุดล้มอาจเกิดแผลพุพองได้ นอกจากนี้อาจทำให้ผู้เล่นเป็นลมแดด เสียเหงื่อมาก ผิวไหม้เนื่องจากแสงแดดที่แรง ร่างกายปรับตัวไม่ทัน แทนที่ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง อาจทำให้เจ็บป่วยไม่สบายได้ง่าย และสำหรับกิจกรรมการออกกำลังกายกลางแจ้งนั้น ควรเลือกช่วงเวลาเช้าตรู่หรือหลังที่พระอาทิตย์ตกไปแล้ว อากาศจะเย็นลงและมีลมพัดผ่าน มากกว่าช่วงเวลาที่แดดออกจัดๆ
เลือกรับประทานอาหารที่ปลอดภัย ทุกคนคงทราบอยู่แล้วว่าช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงที่อาหารปรุงสุกเสียสภาพและเน่าเสียเร็วกว่าอากาศเย็น ดังนั้นใครที่ต้องการไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรดูแลสุขลักษณะอนามัยของตนเอง เลือกอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารที่ถูกเก็บไว้นานหรือเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ หากได้รับเชื้อโรคหรือมีอาการอาหารเป็นพิษคงไม่สามารถออกกำลังกายไหวอย่างที่ตั้งใจได้
เลือกเครื่องดื่มให้เหมาะสมเครื่องดื่มเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับหน้าร้อนเช่นนี้ เพราะร่างกายสูญเสียเหงื่อมากกว่าปกติเกือบ 2 เท่า การดื่มน้ำก่อน จิบน้ำขณะออกกำลังกาย และดื่มน้ำหลังการออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และจะส่งผลต่อสมรรถภาพในการออกกำลังกายต่อไปได้ เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นตะคริว หน้ามืด เป็นต้น และถ้าหากสูญเสียเหงื่อมากจริงๆ อาจพิจารณาเครื่องดื่มเกลือแร่ร่วมด้วย
หลีกเลี่ยงการสูญเสียน้ำออกจากร่างกายโดยไม่จำเป็น การสูญเสียน้ำทางร่างกายนอกจากเหงื่อแล้ว ก็จะออกทางปัสสาวะ อุจจาระ และลมหายใจ ดังนั้นควรระมัดระวังเครื่องดื่มหรืออาหารที่ส่งผลต่อการกระตุ้นปัสสาวะ อุจจาระ เช่น เครื่องดื่มกาแฟ นม อาหารเผ็ด อาหารรสจัด เป็นต้น และควรเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าหนาๆไม่ระบายอากาศ เพราะจะทำให้ร่างกายเสียเหงื่อมากและส่งผลให้ออกกำลังกายได้ไม่ทนทาน ไม่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว อากาศร้อนแค่ไหนเราก็ออกกำลังกายได้อย่างที่ตั้งใจ เพียงแค่เราต้องมีวินัยในการดูแลตนเอง ที่สำคัญจิบน้ำบ่อยๆ เพื่อรักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
ที่มา : มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์