วิธีกำจัดมดในบ้านแบบ ไม่ต้องพึ่งสารเคมีอันตราย

1. น้ำส้มสายชู
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎น้ำส้มสายชูไล่มดได้ เพราะน้ำส้มสายชูถือเป็นสิ่งที่มดไม่ชอบ ทำได้โดยการผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน อัตราส่วน 1:1 จากนั้นนำใส่ขวดสเปรย์ แล้วฉีดบริเวณที่มีมด เช่น ขอบหน้าต่าง วงกบประตู ธรณีประตู รวมถึงตามพื้นกระเบื้องด้วยก็ได้เช่นกัน แล้วรอให้แห้ง ค่อยทำความสะอาด แต่อย่าไปฉีดบริเวณหินอ่อนหรือวัสดุบางชนิด เพราะน้ำส้มสายชูที่เป็นกรดอาจสร้างความเสียหายได้

2. การบูร
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎นอกจากการบูรจะเป็นตัวช่วยดับกลิ่นต่าง ๆ ในบ้านใแล้ว การบูรเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มดไม่ชอบเช่นกัน เพราะกิ่นของการบูรไปรบกวนกลิ่นที่มดทิ้งไว้ วิธีนี้สามารถใช้เป็นวิธีกําจัดมดในห้องนอนหรือส่วนอื่น ๆ ของบ้านก็ได้ โดยนำผงการบูรมาโรยให้ทั่วบริเวณบ้าน หรือในบริเวณที่มีมดเยอะ ก็จะช่วยให้มดไม่มาเข้าใกล้บริเวณเหล่านี้อีก

3. แป้งเด็ก
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎เพราะมดเป็นสัตว์ที่ใช้กลิ่นและสัมผัสในการสื่อสาร แป้งเด็กจึงเป็นวิธีกําจัดมดในบ้านที่ดีอยู่ไม่น้อย เนื่องจากแป้งจะไปขัดขวางการสื่อสารกันของมด แถมยังทำให้มดหายใจไม่สะดวก โดยนำแป้งฝุ่นไปโรยบริเวณที่มีมด หรือรูที่คิดว่าเป็นรังมด จะช่วยให้มดย้ายรังหนีไปที่อื่นโดยไม่กลับมาอีกได้ แต่อย่าทิ้งไว้นานเกินไปจนแป้งจับตัวแข็งนะครับ

4. น้ำยาล้างจาน น้ำสบู่ หรือแม้แต่ผงซักฟอก
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎อีกหนึ่งของใช้ที่ขาดไม่ได้เลยในทุกบ้าน คือ น้ำยาล้างจาน สบู่ นอกจากจะใช้ทำความสะอาดแล้ว ก็ยังนำมาเป็นวิธีกำจัดมดได้ นำน้ำยาล้างจานสูตรใดก็ได้มาผสมกับน้ำ และฉีดลงบริเวณที่มีมด หรือเป็นทางเดินของมด เพราะกลิ่นและสารลดแรงตึงผิว ทำให้มดขาดอากาศได้

5. ส้มและมะนาว
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ส้มหรือมะนาวถือเป็นผลไม้สารพัดประโยชน์ ที่นอกจากสร้างกลิ่นหอมในบ้านแล้ว ก็ยังนำมาใช้เป็นวิธีไล่มดออกจากบ้านได้ด้วย สำหรับส้มให้นำเปลือกไปล้างแล้วตากแห้งแล้วไปวางตามจุดที่มีมดเดินผ่าน หรือนำเปลือกส้มไปปั่นกับน้ำแล้วฉีดก็ได้เช่นกัน ส่วนมะนาวให้คั้นน้ำแล้วผสมน้ำเปล่าตามอัตราส่วน 1:3 ฉีดพ่นในพื้นที่ที่มีมด กลิ่นของส้มและมะนาวจะช่วยให้มดหนีไปได้

6. เถ้าเปลือกไข่
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎นำเปลือกไข่ไปเผาให้แห้งเกรียม แล้วนำไปโรยตามจุดต่าง ๆ ที่มีมดอยู่เยอะ มีมดเดินผ่าน หรือจะไปโรยที่รังมดเลยก็ได้ กลิ่นเปลือกไข่ที่ไหม้เกรียมจะเป็นตัวช่วยชั้นดีที่ทำให้มดหนีออกจากบ้านไปเลย

7. ขี้ผึ้ง
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ถ้าพบรูเล็ก ๆ ตามอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ในบ้าน ให้ใช้ขี้ผึ้งมาทาปิดรูเหล่านี้ จะช่วยป้องกันมดเดินเข้าไปสร้างรังในรูต่าง ๆ เหล่านี้ แต่วิธีนี้จะเป็นเพียงวิธีชั่วคราวที่ต้องหมั่นทำกันบ่อย ๆ เพราะขี้ผึ้งเองไม่คงทน เหมาะสำหรับบ้านที่มีปัญหามดขึ้นเพียงเล็กน้อย

8. น้ำมันหอมระเหย
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎น้ำมันหอมระเหยต่าง ๆ ทั้งน้ำมันยูคาลิปตัส หรืออบเชย ก็เป็นวิธีกําจัดมดแดงหรือวิธีกำจัดมดดำที่ดีไม่น้อย โดยผสมน้ำมันหอมระเหยกับน้ำส้มสายชู 1 ส่วน 4 ถ้วย และน้ำเปล่า 2 ถ้วย ใส่ขวดสเปรย์และฉีดบริเวณที่มีมด นอกจากจะไล่มดออกจากบ้านโดยไม่ต้องใช้สารเคมีแล้ว ก็ยังสร้างความสดชื่นและกลิ่นหอมด้วย

9. ปิดฝาภาชนะเสมอ
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎เพราะอาหารเป็นสิ่งดึงดูดมดเข้ามาในบ้าน จึงควรปิดฝาภาชนะต่าง ๆ ให้สนิท โดยเฉพาะภาชนะใส่วัตถุดิบทำอาหาร ขวดเครื่องปรุงต่าง ๆ ที่ต้องตั้งเอาไว้ในห้องครัวตลอดเวลา เมื่อไม่มีกลิ่นอาหารแล้ว โอกาสที่มดจะเข้ามาในบ้านก็น้อยลง

10. ทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎สิ่งที่ไม่ควรละเลยเป็นอันขาด คือการทำความสะอาดแต่ละบริเวณภายในบ้านอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะภายในห้องครัวที่มีการประกอบอาหารอยู่เป็นประจำ หรือห้องรับประทานอาหารที่มีทั้งเศษอาหาร เศษขยะ และอาจมีคราบต่าง ๆ หลงเหลืออยู่ ทำให้มดเข้ามาในบ้าน

11. ปิดทางเข้าออกของมด
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎สุดท้ายคือสังเกตดูว่ารังของมด หรือรูที่มดชอบเดินออกมาอยู่ที่บริเวณไหน ถ้าหาเจอแล้วให้หากาวที่มาหยอด หรือ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับอุดรูโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรตรวจเช็คภายในบ้านอย่างละเอียดว่า มีบริเวณไหนที่เกิดรูบ้าง เพื่อป้องกันไม่ให้มดมาทำรังอีก
‏‏‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ก็เป็นทริกเล็ก ๆ สำหรับการกำจัดมดที่มาอาศัยในบ้าน โดยไม่ใช้สารเคมี แต่ทั้งนี้ต้องอย่าลืมแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยนะครับ

‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎ ‎จะดีกว่าไหมถ้าเราไม่ต้องกังวลก่อนหลับว่าจะมาทำงานไม่ทัน แต่มีที่พักใกล้ที่ทำงาน อย่าง ฟินน์คอนโด ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปวนหาที่จอดรถ ไม่ต้องเสียเวลากับการใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนนานๆ แม้งานจะยุ่งแค่ไหนก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีเพื่อกลับถึงที่พักเพื่อพักผ่อน ซึ่งการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเริ่มต้นด้วยการนอนหลับอย่างมีคุณภาพครับ