คอนโดแบบ Dual – Key คืออะไร
หลายท่านยังไม่เคยได้ยินคำว่า Dual-Key Condos ซึ่งวันนี้บทความนี้จะนำผู้อ่านมารู้จักกับ Dual-Key Condos กันครับ
Dual-Key Condos อาจจะเป็นยูนิตที่ไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับคนไทยมากนัก เพราะยังไม่ค่อยแพร่หลายในวงการคอนโดมิเนียมของประเทศไทย ซึ่งคำนี้เริ่มมีมาไม่ต่ำว่าสิบปีแล้วในต่างประเทศ ซึ่งลักษณะของยูนิตประเภทนี้เป็นการเอาสองยูนิตมารวมกันไว้ในห้องเดียว คอนโดห้อง Dual Key 1 ยูนิต จะแบ่งได้เป็น 2 ห้อง ที่แยกออกจากกันชัดเจน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมอยู่ครบครัน โดยในแต่ละห้องจะมีขนาดสเปคที่แตกต่างกันก็ได้ เช่น ห้องแรก มี 2 ห้องนอน ขนาดใหญ่กว่า ห้องที่สองเป็น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ หรือในสองห้องของยูนิตนั้นจะมีขนาดสเปคที่เหมือนกันทุกประการเลยก็ได้เช่นกันและโดยรวมมักจะมีขนาดใหญ่กว่ายูนิตปกติ ซึ่งยูนิตแบบ Dual-Key นี้เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2009 ในสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งหากลองดูรูปภาพตัวอย่าง Unit Plan ของห้องประเภทนี้ จะเห็นได้ว่ามีทั้ง Dual-Key แบบ 2 Bedroom คือแบ่งห้องเป็น 2 ห้องแยกกัน และยูนิต Dual-Key แบบ 3 Bedroom คือห้องแบบ Studio 1 ห้อง และห้องแบบ 2 Bedroom อีก 1 ห้อง ซึ่งจะไม่ใช่ห้องแบบ 2 Bedroom และ 3 Bedroom แบบปกติทั่วไปที่เราเห็น เพราะห้องแบบ Dual-Key จะมีการแยกกันอย่างชัดเจน และไม่สามารถเดินไปหากันระหว่างห้องได้ หากไม่มีกุญแจสำหรับห้องนั้น ๆ จะมีพื้นที่ร่วมกันเพียงแค่โถงทางเข้าเท่านั้น
ที่มา : eclaunch.com
ข้อดีของ Condo แบบ Dual-Key
อยู่เองก็ได้แถมปล่อยเช่าได้ด้วย หรือปล่อยเช่าได้สองสัญญาก็ได้
สำหรับห้องแบบ Dual-Key นั้น เราจะเห็นได้ว่าเป็นการแบ่งพื้นที่อยู่อาศัยที่เป็นสัดส่วน และครบครัน เพราะเป็นการแบ่งห้องออกจากกันเลย ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในตัวของมันเอง แทบไม่มีพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันเลย มีความเป็นส่วนตัวสูง โดยผู้อยู่อาศัยแชร์แค่โถงทางเข้าของห้องเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่อยากจะปล่อยเช่าคอนโดมิเนียม พร้อมกับตัวเองก็ต้องการที่อยู่อาศัยด้วย เพราะสามารถกู้ซื้อในครั้งเดียว สามารถได้ทั้งห้องสำหรับปล่อยเช่า กับห้องอยู่อาศัยของเราเองเลย อีกข้อดีคือ ถ้าปล่อยเช่าห้องแบบ Dual-Key นั้น สามารถที่จะตรวจสอบสภาพห้องและการใช้งานห้องได้ง่าย แต่ถ้าไม่ต้องการอยู่เองก็สามารถปล่อยเช่า 2 ห้องพร้อมกันได้เลย
แยกพื้นที่เป็นสัดส่วน ความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง
ห้องแบบนี้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูงมาก คือสามารถใช้อยู่อาศัยได้ทั้งสองยูนิต หรือจะทำเป็นโฮมออฟฟิศก็ได้ ซึ่งก็กลายเป็นออฟฟิตขนาดย่อมได้อย่างสบายส่วนอีกห้องก็เอาไว้พักผ่อนและอยู่อาศัย แทบไม่ต้องเดินทางเลย
ครอบครัวใหญ่ก็อยู่คอนโดมิเนียมได้
ยูนิตแบบ Dual-Key เหมาะกับคนที่มีครอบครัวใหญ่ โดยอาจจะเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุและต้องการดูแลพวกท่านอย่างใกล้ชิด หรือเป็น 2 ครอบครัวที่อยู่ร่วมกันแต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นของครอบครัวตัวเอง หรือครอบครัวที่ลูกโตแล้วก็อาจจะแยกให้ลูกไปอยู่ยูนิตเล็กเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกได้
เสียภาษีที่อยู่อาศัยน้อยลง
ปกติแล้วเมื่อเราเป็นเจ้าของคอนโดมากกว่า 1 ห้องจะต้องเสียภาษีที่ดินเพิ่มขึ้น เพราะตั้งแต่หลังที่ 2 เป็นต้นไปจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษีที่ดินใหม่ ซึ่ง คอนโดห้อง Dual Key นั้นนับว่าเป็นหลังเดียว ไม่ใช่สองหลัง จึงช่วยเราเรื่องภาษีตรงนี้ไปได้ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการลงทุนได้
ที่มา : stackedhoes.com
ข้อเสียของ Dual-Key หล่ะ?
ขายต่อยาก
ด้วยความที่ห้อง Dual-Key ค่อนข้างเป็นห้องที่คนซื้อจะต้องมีความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวใหญ่หรือซื้อไว้เป็น Home Office หรือซื้อเพื่อปล่อยเช่า ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อย อาจเป็นเหตุผลให้ขายห้องประเภทนี้ได้ยากกว่าห้องประเภทอื่น ๆ นอกจากนี้สังคมไทยส่วนใหญ่หากมีครอบครัว ก็มักจะไปหาบ้านเดี่ยวมากกว่า ซึ่งข้อนี้จะต่างกับสิงคโปร์หรือฮ่องกงมาก
เวลาขาย จะกลายเป็นขายเพียงห้องเดียว
แม้การซื้อเพียง 1 ได้ถึง 2 จะเป็นข้อดีของคอนโด Dual-Key แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อาจจะกลายเป็นข้อเสียของยูนิตประเภทนี้ได้ด้วย เพราะเมื่อทำการขาย เราไม่สามารถแยกขายบางห้องได้ ถ้าเราซื้อเพื่ออยู่อาศัยด้วย เราจะต้องย้ายออกไปด้วย
ที่มา : stackedhoes.com
Dual-Key Condoในประเทศไทย
ในไทยยังมีเพียงไม่กี่แห่งที่มีการพัฒนาคอนโดแบบนี้ขึ้นมาและยังถือว่าใหม่มากซึ่งผู้สนใจจริงๆก็สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากช่องทางต่างๆ
และนี่คือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ Dual-key Unit ยูนิตสไตล์ใหม่ ที่เริ่มเป็นที่นิยมในต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตอาจแพร่หลายในไทยก็ได้และอย่าลืม ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนกันด้วยนะครับ
