ผลกระทบต่อสุขภาพ
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ เชื้อราหากเข้าตาและจมูกจะทำให้เกิดการระคายเคือง มีอาการจาม น้ำมูกไหล มีไข้ อาจก่อให้เกิดโรค หอบหืด ภูมิแพ้ และปอดอักเสบได้

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในห้อง
1.ลดความชื้นด้วยการเปิดหน้าต่างให้อากาศภายนอกระบายเข้า-ออกตลอดเวลา เว้นแต่ว่าหากฝนตกหนักหลายวัน การเปิดหน้าต่างอาจทำให้ละอองฝนสาดเข้ามาได้
2.อย่าตากเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ไว้ภายในห้องเพราะจะยิ่งเป็นการเพิ่มความชื้น
3.ใช้เครื่องปรับอากาศหรือเครื่องลดความชื้น(โหมดลดความชื้น) หรือพัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ เพื่อลดความชื้นและช่วยให้อากาศถ่ายเทมากยิ่งขึ้น ถ้ามีเครื่องดูดความชื้นจะช่วยได้มาก
4.หมั่นตรวจสอบห้องและเครื่องใช้ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ดูแลรักษาความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในเครื่องใช้ เครื่องเรือน เครื่องนอน และเฟอร์นิเจอร์ เช่น ฟูก ที่นอน หมอน พรม เป็นประจำ หากเริ่มมีราขึ้นให้รีบแก้ไขเพราะสปอร์ของราสามารถกระจายไปได้ทั่วทั้งห้อง หรือแม้แต่ในอาคาร

วิธีกำจัดเชื้อราในห้อง
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ พื้นผิววัสดุที่พบเชื้อราให้ใช้กระดาษทิชชูแผ่นหนาและขนาดใหญ่ หรือกระดาษหนังสือพิมพ์พรมน้ำให้เปียกเล็กน้อย เช็ดพื้นผิวไปในทางเดียว แล้วนำกระดาษทิชชูหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ดังกล่าวทิ้งลงในถุงขยะและมัดปากถุง ต่อมาให้ใช้แบบเดิมชุบลงในน้ำผสมกับสบู่ หรือน้ำยาล้างจาน เช็ดซ้ำในจุดที่มีเชื้อราอีกครั้ง และสุดท้ายให้
ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อรา เช่น น้ำส้มสายชู 5 – 7 เปอร์เซ็นต์ หรือแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 60 – 90 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้กระดาษชุบเช็ดเพื่อทำความสะอาด แต่ถ้าสามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราได้จะได้ผลดีที่สุด
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ที่สำคัญอย่าลืมสวมถุงมือ หน้ากากปิดจมูกและปากป้องกันทุกครั้งขณะทำความสะอาด ควรเปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติเป็นประจำ ห้ามเปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศขณะทำความสะอาดบ้านหรือขณะกำจัดเชื้อรา เพราะจะเชื้อราฟุ้งกระจายไปทุกซอกมุมของห้อง

‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ เมื่อห้องของคุณห่างไกลเชื้อราแล้ว ก็จะสามารถใช้ชีวิตในห้องได้อย่างสบายใจและมีสุขภาพดีกับ ฟินน์คอนโด นะครับ และใครกำลังมองหาตัวช่วยสำหรับกำจัดราบนพื้นหรือผนัง ลองติดต่อ เลิศวสิน เพื่อขอคำแนะนำผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อราบนพื้นผิวต่างๆได้ครับ