จุดเช็คคอนโดหน้าฝนที่ 3 : ปลั๊กไฟและระบบไฟฟ้า

สำหรับจุดถัดมาในการเช็คคอนโดหน้าฝนนี้ ก็คือในส่วนของปลั๊กไฟและระบบไฟฟ้า แต่จะเจาะจงหน่อยที่ปลั๊กไฟที่ด้านนอกตรงระเบียงห้อง ซึ่งคอนโดมักจะมีปลั๊กไฟฟ้าตรงจุดนี้ไว้ให้สำหรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าที่ระเบียงนั่นเอง โดยปกติปลั๊กสำหรับภายนอกแบบนี้ควรจะมีฝาปิดมาให้ด้วย ให้เราตรวจสอบดูฝาปิดนี้ว่าสามาถปิดได้มิดชิดป้องกันน้ำเข้าได้หรือไม่ (ไม่ต้องเอาน้ำไปลองราดดูนะ! อย่าหาทำ!) เพราะหากน้ำสามารถรั่วเข้าไปถึงในช่องปลั๊กได้ ก็อาจเปิดปัญหาไฟฟ้ารั่วและลัดวงจรนั่นเอง

ความเสียหาย : อาจเกิดไฟฟ้ารั่วและลัดวงจร ทำให้วงจรไฟฟ้าภายในห้อง หรืออาคารคอนโดเสียหายได้ รวมถึงเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เมื่อเราต้องใช้งานปลั๊กไฟในจุดนี้อีกด้วย

จุดที่ควรเช็ค :

• ลักษณะของฝาครอบยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
• ฝาครอบสามารถปิดมิดชิด ป้องกันน้ำฝนได้ (อย่าหาน้ำมาราดเชียวนะ เตือนแล้ว!)

วิธีแก้ : หากฝาครอบปลั๊กดูเหมือนมีการชำรุด ให้รีบเปลี่ยนเต้าเสียบปลั๊กพร้อมฝาครอบใหม่ตามสเปคเดิมให้สมบูรณ์ โดยการเรียกช่างไฟฟ้าประจำอาคารผู้มีความเชี่ยวชาญมาเปลี่ยนให้ และถอดปลั๊กเครื่องซักผ้าและปิดฝาครอบปลั๊กทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน

จุดเช็คคอนโดหน้าฝนที่ 4 : รอยร้าวและแนวเชื่อมตามผนัง

จุดเช็คคอนโดหน้าฝนหมวดถัดไปก็คือ รอยร้าว รอยแตก และตามแนวเชื่อมผนัง นั่นเองครับ ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคอนโดเก่าอายุหลายปีแล้วเสมอไปที่จะต้องพบกับปัญหารอยแตกรอยร้าวตามผนัง เปิดโอกาสให้น้ำฝนรั่วซึมผ่านได้ บรรดาคอนโดสร้างใหม่ที่ใช้วิธีก่อสร้างแบบผนังสำเร็จรูปแบบ Precast หรือ Prefab ก็มีโอกาสเกิดรอยรั่วตามแนวเชื่อมของผนังแต่ละชิ้นได้เช่นกัน หากก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง

ความเสียหาย : คล้ายกับกรณีการรั่วซึมตามหน้าต่างและประตูระเบียง แต่การรั่วซึมผ่านรอยผนังแตกร้าวหรือตามแนวเชื่อมต่อของแผ่นผนัง Precast/Prefab หากเกิดการรั่วที่แนวรอยต่อเหนือห้องของเรา ก็อาจทำให้น้ำฝนรั่วซึมสร้างความเสียหายให้กับเพดานห้องได้

จุดที่ควรเช็ค :

• คอยสังเกตแนวขอบเพดานต่างว่ามีรอยช้ำน้ำหรือไม่
• ตรวจดูตามแนวรอยต่อของแผ่นผนัง Precast/Prefab เช่น ขอบมุมห้อง

วิธีแก้ : หากพบการรั่วซึมของน้ำ ให้เก็บหลักฐานด้วยการถ่ายภาพไว้ แล้วรีบแจ้งทางนิติบุคคลคอนโดให้เร่งดำเนินการจัดหาผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมผนังคอนโดที่รั่ว เนื่องจากผนังปูนของห้องฝั่งภายนอกอาคารถือว่าเป็นทรัพย์ส่วนกลางในการดูแลของนิติบุคคลนั่นเองครับ

จุดเช็คคอนโดหน้าฝนที่ 5 : แมลงรำคาญพวกมดและปลวก

การเช็คคอนโดหน้าฝนจุดสุดท้าย สำหรับคอนโดที่มีการอยู่อาศัยมาแล้วสักระยะ นั่นก็คือการตรวจหารังของบรรดาสัตว์และแมลงรำคาญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มด แมลงสาบ รวมถึงปลวก อีกด้วย โดยเมื่อมีฝนตกหนักพื้นดินภายนอกชุ่มน้ำ และในท่อระบายน้ำต่าง ๆ มีแต่น้ำเต็มไปหมด ทำให้มดกับแมลงสาบพยายามย้ายหนีน้ำขึ้นพื้นที่ที่สูงกว่า ก็คือบนอาคารนั่นเอง คอนโดยูนิตชั้นล่าง ๆ จึงกลายเป็นด่านแรกที่อาจเผชิญแมลงรำคาญเหล่านี้ก่อนใครเพื่อน ส่วนปัญหาปลวกจะตามมาจากการที่แมลงเม่าออกจากรังหลังฝนตกในระยะแรกของฤดู หากปล่อยให้แมลงเม่าเข้ามาในห้องได้ แมลงเม่าจะสลัดปีก และกลายเป็นปลวกไปแอบอาศัยอยู่ตามเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ และสร้างความเสียหายให้กับห้องได้นั่นเอง

ความเสียหาย : มดอาจสร้างความรำคาญต่าง ๆ เช่น ตอมอาหาร ขณะที่แมลงสาบก็อาจเป็นพาหะของเชื้อโรคต่าง ๆ ส่วนปลวกก็จะสร้างความเสียหายให้กับเฟอร์นิเจอร์และทรัพย์สินต่าง ๆ นั่นเอง

จุดที่ควรเช็ค :

• ตรวจตามร่องผนังหรือรอยแตกร้าวต่าง ๆ ของผนังชั้นในของห้อง เพราอาจเป็นที่มาของมด
• ท่อระบายน้ำ และข้อต่อท่อน้ำทิ้งต่าง ๆ ที่อาจเป็นทางเข้าของแมลงสาบ
• ตรวจเช็คบรรดาเฟอร์นิเจอร์ไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะประเภท Built-In

วิธีแก้ : หากพบว่าในห้องมีมด ตามร่องผนังต่าง ๆ ให้อุดช่องทางเขาด้วยปูนยาแนวหรือฉาบปิดทับให้หมด พยายามรักษาความสะอาดของห้องอยู่เสมอไม่ให้มีแมลงสาบ หากพบว่ามีปลวกให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กำจัดแมลงเข้ามาจัดการทันที

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 5 จุดเช็คคอนโดหน้าฝน ซึ่งยังเป็นเพียงการตรวจเช็คด้วยตัวเองในเบื้องต้นเท่านั้นนะ หากเป็นปัญหาร้ายแรงควรรีบติดต่อนิติบุคคลคอนโดเพื่อประสานงานให้ผู้เชี่ยวชาญหรือช่างที่ชำนาญมาดูแลจะดีกว่านะครับ

ที่มา condonewb.com