
7สิ่งที่ต้องระวังในการซื้อคอนโดเพื่อการลงทุน
ในปัจจุบัน คอนโดมิเนียมถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ยอดนิยมในเขตเมืองใหญ่ เนื่องจากมีความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย และเหมาะแก่การลงทุนระยะยาว อย่างไรก็ตาม การซื้อคอนโดโดยไม่ศึกษาและวางแผนให้รอบคอบอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดร้ายแรงซึ่งสร้างภาระทั้งในด้านการเงินและจิตใจ บทความนี้นำเสนอข้อผิดพลาดที่พบบ่อยจากประสบการณ์ตรงของนักลงทุนรายหนึ่ง พร้อมคำแนะนำในการตัดสินใจซื้ออย่างชาญฉลาด
1. ตัดสินใจเร็วเกินไปโดยไม่ศึกษารายละเอียด
หนึ่งในข้อผิดพลาดสำคัญคือการตัดสินใจซื้อคอนโดภายในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูลด้านโครงการ ทำเล กลุ่มเป้าหมาย และศักยภาพในการเติบโต การตัดสินใจจากความรู้สึกชั่ววูบหรือจากความกลัวพลาดโอกาส อาจทำให้ผู้ซื้อต้องเผชิญกับปัญหาทั้งด้านราคาขายต่อที่ต่ำกว่าคาดหวัง หรือค่าเช่าที่ไม่คุ้มทุนในระยะยาว ซึ่ง ควรใช้เวลาในการวิเคราะห์โครงการอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ และเปรียบเทียบกับโครงการอื่นในทำเลใกล้เคียง ก่อนตัดสินใจจองหรือทำสัญญาซื้อขาย
2. เลือกซื้อแต่ห้องขนาดเล็กเพราะเข้าใจว่าปล่อยง่าย
แม้ห้องขนาดเล็กจะขายหรือปล่อยเช่าได้ง่ายในบางตลาด แต่การมีการลงทุนที่ประกอบด้วยห้องเล็กเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ความสามารถในการสร้างรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะเมื่อผู้เช่าเปลี่ยนพฤติกรรมหรือมีการแข่งขันจากโครงการใหม่ๆ ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่ดีกว่า ควรกระจายการลงทุนด้วยห้องหลากหลายประเภท เช่น 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน หลาย ๆ แบบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตอบโจทย์กลุ่มผู้เช่าที่หลากหลาย
3. ลงทุนในคอนโดที่อยู่ลึกเกินไป
คอนโดที่อยู่ในซอยลึกหรือไม่มีการคมนาคมสาธารณะรองรับอย่างชัดเจน อาจทำให้หาผู้เช่ายาก และมีศักยภาพในการเติบโตต่ำกว่าโครงการทำเลใกล้รถไฟฟ้า หรือถนนที่สัญจรได้ง่าย หากเลือกลงทุนในคอนโด ควรเลือกโครงการที่อยู่ในทำเลชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ และไม่อยู่ในจุดอับของแผนการพัฒนาเมือง
4. เลือกซื้อห้องชั้นบนสุดโดยไม่พิจารณาความเสี่ยง
ห้องชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมแม้จะให้มุมมองที่ดีและเป็นส่วนตัวมากกว่า รวมถึงราคาขายและผลตอบแทนที่ดี แต่ก็เสี่ยงต่อปัญหาเรื่องน้ำรั่วซึม ความร้อน และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงกว่าห้องอื่น ๆ หากไม่จำเป็น ควรเลือกชั้นที่อยู่กลางอาคาร ซึ่งมักมีอุณหภูมิที่เหมาะสมกว่า และโอกาสเกิดปัญหาน้อยกว่า

5. เข้าใจผิดเกี่ยวกับ “หัวหมา” และ “หางมังกร”
มีความเข้าใจผิดในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับคำว่า “หัวหมา หางมังกร” ซึ่งหมายถึงการซื้อห้องที่ดีที่สุดในโครงการระดับกลาง หรือห้องที่เล็กที่สุดในโครงการระดับหรู ซึ่งทั้งสองแบบนี้อาจไม่เหมาะสำหรับการลงทุน เนื่องจากมีฐานลูกค้าเฉพาะและอาจขายต่อได้ยาก ควรเลือกห้องที่อยู่ในระดับกลางของโครงการ ไม่สุดโต่งในด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เช่น ห้องมุมราคาสูงที่สุด หรือห้องเล็กที่สุดที่ฟังก์ชันไม่สมบูรณ์
6. มองข้ามรายละเอียดในสัญญา
นักลงทุนบางรายเซ็นสัญญาโดยไม่อ่านรายละเอียดให้ครบถ้วน ซึ่งอาจทำให้เสียสิทธิ์ในอนาคต เช่น เงื่อนไขการคืนเงิน การเปลี่ยนแปลงแบบห้อง หรือเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ที่ไม่เป็นธรรม ควรปรึกษานักกฎหมายก่อนลงนามในเอกสารสำคัญ และควรอ่านทุกเงื่อนไขในสัญญาโดยละเอียด
7. ลงทุนตามกระแสโดยขาดเป้าหมายชัดเจน
บางคนซื้อคอนโดตามคำชักชวนของเพื่อนหรือเพราะเห็นว่ามีโปรโมชั่นดี โดยไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าจะซื้อเพื่ออยู่เองหรือเพื่อปล่อยเช่าในระยะยาว ก่อนซื้อควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเป็นการลงทุนระยะสั้น กลาง หรือยาว รวมถึงวางแผนการเงินรองรับในกรณีเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ผู้เช่าไม่ต่อสัญญา หรือเศรษฐกิจชะลอตัว
ความสำเร็จในการซื้อคอนโดเริ่มต้นจากการวางแผน
การเลือกซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุน ควรเป็นเรื่องของการวางแผน วิเคราะห์ และเข้าใจเป้าหมายของตนเองอย่างถ่องแท้ ผู้ซื้อควรหมั่นหาข้อมูล เปรียบเทียบ และหาข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์ก่อนตัดสินใจ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้อย่างยั่งยืน

จะดีกว่าไหมถ้าเราไม่ต้องกังวลก่อนหลับว่าจะมาทำงานไม่ทัน แต่มีที่พักใกล้ที่ทำงาน อย่าง ฟินน์คอนโด ไม่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปวนหาที่จอดรถ ไม่ต้องเสียเวลากับการใช้ชีวิตอยู่บนท้องถนนนานๆ แม้งานจะยุ่งแค่ไหนก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีเพื่อกลับถึงที่พักเพื่อพักผ่อน ซึ่งการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพเริ่มต้นด้วยการนอนหลับอย่างมีคุณภาพครับ