1. เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์ให้เหมาะกับการวิ่งในฤดูหนาว
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎ออกกำลังสิ่งที่สำคัญมากในการกายช่วงฤดูหนาวก็คือเสื้อผ้าที่ใช้ปกป้องร่างกายจากความเย็นภายนอก ให้ร่างกายยังคงความอบอุ่นไว้ได้เสมอแม้จะเจออุณหภูมิต่ำมาก ควรที่จะเลือกเสื้อแขนยาว และกางเกงขายาวให้เหมาะสม ซึ่งถ้าหนาวมากก็ควรที่จะใส่เสื้อผ้าหลายชั้นขณะออกกำลังกาย นอกจากเสื้อผ้าแล้วอุปกรณ์อื่นๆเช่น ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ก็ควรเตรียมให้พร้อมเช่นกัน

2. ใช้รองเท้าวิ่งให้เหมาะสม
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎ในฤดูหนาวหนาวนั้น เรามักจะพบว่าพื้นถนนมักจะลื่นกว่าปกติ เนื่องจากน้ำค้างหรือหมอกที่ลงมาในช่วงเช้าหรือช่วงค่ำๆ ซึ่งเป็นเวลาที่คนมักจะออกไปวิ่ง รองเท้าวิ่งจำนวนมากพยายามออกแบบให้มีความเบา นุ่มนวล รองรับการกระแทก หรือมีแรงส่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันพื้นรองเท้าเหล่านั้นก็อาจไม่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะพื้นที่ดีพอเมื่อเจอกับพื้นที่เปียกน้ำ เมื่อเจอพื้นเปียกก็อาจลื่น จนก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นจึงควรมั่นใจให้ดีว่าได้เลือกรองเท้าให้เหมาะสมกับสภาวะภายนอกที่จะออกไปวิ่งในฤดูหนาวแล้ว

3. เปลี่ยนเวลามาออกกำลังกายตอนเช้า
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎โดยทั่วไปแล้วเรามักจะเห็นคนมาออกกำลังกาย 2 ช่วงเวลา ก็คือช่วงเช้ากับช่วงเย็น เนื่องจากเป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีแดด และอากาศไม่ร้อนมาก โดยเฉพาะช่วงเย็นที่จะเหมาะกับวัยนักศึกษาและคนวัยทำงานที่ได้มาออกกำลังกายหลังเลิกงาน แต่ในช่วงฤดูหนาวนั้นจะมีช่วงกลางคืนยาวกว่ากลางวัน นั่นก็หมายความว่าในช่วงเย็นจะมืดเร็วกว่า ซึ่งการที่มืดเร็วนั้นก็ตามมาด้วยอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงทัศนวิสัยที่แย่ลง ก็อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ เรียกว่ามีเวลาออกกำลังกายน้อยลง และเสี่ยงต่ออากาศหนาวรวมไปถึงอันตราย ดังนั้นการเปลี่ยนมาออกกำลังกายช่วงเช้าแทนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ไม่ต้องเสี่ยงอันตราย ยิ่งสายยิ่งอบอุ่นขึ้น เพราะแดดหน้าหนาวไม่ได้ร้อนมากนัก นอกจากนั้นการเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน ให้นอนเร็วและตื่นเช้า ยังช่วยเรื่องสุขภาพได้อีกด้วย

4. ลองฝึกเทคนิคการวิ่งใหม่ๆ
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎การออกกำลังกายฤดูหนาวนั้นเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า จึงเหมาะกับการเปลี่ยนแปลงเทคนิคการวิ่ง ในเวลาปกติหลายคนไม่กล้าที่จะใช้ความเร็วในการวิ่งมากนัก เพราะรู้สึกว่าเหนื่อยมาก เหงื่อออกเยอะ หรือมีข้อจำกัดทางร่างกาย แต่สำหรับฤดูหนาวที่อากาศเย็นสบายๆ และเหงื่อออกน้อยลง ระเหยไว เราสามารถผลักดันขีดจำกัดของตัวเองด้วยการวิ่งให้นานขึ้น ไกลขึ้น หรือเร็วขึ้นได้ แต่ก็ต้องระวังไม่ฝืนตัวเองเกินไป ต้องอย่าลืมที่จะดูสัญญาณของร่างกายตัวเองว่าผิดปกติหรือไม่

5. ลองใช้ลู่วิ่งไฟฟ้า หากไม่อยากไปไหน
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎หากว่าไม่ถูกกับอากาศหนาวๆ การออกกำลังกายในห้องหรือในยิมก็ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศที่ดีเลยทีเดียว เพราะคุณคงไม่อยากให้อากาศหนาวเป็นข้ออ้าง ในการที่จะไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง แล้วการใช้เทคนิคการวิ่งที่เหมาะสม ก็สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีไม่แพ้การวิ่งข้างนอก เพราะสามารถปรับความเร็ว ปรับความชันได้ และทำอย่างอื่นๆชิวไปด้วยขณะที่ออกกำลังกายก็ยังได้

6.วอร์มอัพเสมอ
‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎สิ่งสำคัญที่สุด คือ การวอร์มอัพก่อนการออกวิ่ง อย่างน้อย 20 นาที เพื่อให้ร่างกายพร้อมก่อนที่จะออกวิ่ง ในการวิ่งระยะไกล ควรจะวิ่งตามที่เราเคยซ้อมมา อากาศหนาวจะทำให้เรารู้สึกไม่เหนื่อย หรือ ชีพจรไม่เร็วมาก การเร่งเครื่องตั้งแต่ตอนแรก อาจจะทำให้เจอปัญหาในตอนท้ายของการวิ่งได้ แนะนำว่า ถ้าวิ่งตามที่ซ้อมมาก่อน แล้วจะเพิ่มความเร็วในช่วงหลัง น่าจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยและวิ่งจบได้ดีกว่า

‎‎‎‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ สำหรับการวิ่งฤดูหนาว ซึ่งจะเห็นได้ว่ารายละเอียดเล็กๆน้อยๆ อย่างการเลือกใช้อุปกรณ์วิ่งให้เหมาะสม ก็มีผลต่อความปลอดภัยของสุขภาพร่างกาย
การออกกำลังกายเป็นส่วนหนึ่งที่ประกอบกันเป็นภาพรวมของสุขภาพที่ดี และรากฐานสำคัญของสุขภาพที่ดี  ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่ง ฟินน์ คอนโด ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการวิ่งในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนะครับ